(ต่อจากจอยนะคะ)
พอเปิดประตูให้รุ่นน้องที่กลายมาเป็นรูมเมทกันชั่วคราวโดยฝีมือเหล่าเพื่อนตัวดีทั้งหลาย หมอกก็เอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงโซฟาุมุมห้อง คนที่อยู่ในโลกส่วนตัวไปแล้วอย่างสายหมอกคงจะไม่รู้ว่ารุ่นพี่วาวิวคนนี้กำลังรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก เพราะรูมเมทจำเป็นที่สิงอยู่มุมห้องไม่ได้ปริปากพูดอะไรกับเขาเลยซักคำ
"หมอกจะอาบน้ำก่อนหรือจะให้พี่อาบก่อน"
"พี่อาบก่อนเลยก็ได้" หมอกเงยหน้าจากโทรศัพท์ขึ้นมาตอบวาวิวแค่แปปเดียวแล้วก็กลับไปสนใจกับเครื่องมือสื่อสารสี่เหลี่ยมของตัวเองต่อ
วาวิวหยิบผ้าขนหนูจากกระเป๋าและของใช้ส่วนตัวต่างๆเข้าห้องน้ำไป เอาตรงๆเขาเองก็แอบคิดมากเหมือนกันว่าหมอกอาจจะไม่ชอบเขาหรือเปล่าถึงได้ทำเมินกันขนาดนั้น คงจะเพราะผิดหวังสินะที่เขาไม่ใช่ผู้หญิง...เห้อ
พอวาวิวเดินหายเข้าไปในห้องน้ำสายหมอกก็เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่... ให้ตายเหอะ ทั้งที่พี่วาวิวเขาเป็นผู้ชายแท้ๆแต่ทำไมกลับทำให้เขาเขินได้ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่จึงทำให้เขาเขินๆที่จะคุยกับพี่เขาแบบเป็นเรื่องเป็นราว ตอนอยู่บนรถก็คุยกันนับประโยคได้เพราะเขาชิงหลับไปก่อน พอได้มาอยู่กันสองคนแบบนี้ก็ทำเอาเขินๆไม่ใช่น้อยเขาถึงได้ทำเป็นเล่นโทรศัพท์ทั้งๆที่ความจริงมันไม่มีอะไรเลย ได้แต่ไถ่ไทม์ไลน์ไปมาเพราะไม่มีอะไรให้เล่น
Rrr~ Rrr~
เสียงโทรศัพท์ของหมอกดังขึ้น และพอมองไปที่หน้าจอก็เจอเข้ากับเบอร์ของการฟเพื่อนตัวแสบ สายหมอกไม่รอช้ากดรับสายของเพื่อนทันที
[ว่าไงครับน้องหมอก อยู่กับพี่วาวิวมีความสุขดีมั้ย]
"กวนตีนหรอมึง กูยังไม่ได้คิดบัญชีกับพวกมึงเลยนะ"
[อะไร คิดบัญชีอะไร พวกกูยังไม่ทันทำอะไรเลย]
"อย่ามาทำเนียน กูรู้ว่าพวกมึงนั่นแหละทำให้กูต้องมาอยู่ห้องเดียวกับพี่เขา"
[แล้วไม่ชอบหรือไง]
"ไม่ ไม่เลย พวกมึงก็รู้ว่ากูไม่ได้ชอบพี่เขา"
[เออหน่า อยู่ใกล้กันบ่อยๆเดี๋ยวก็ชอบเองแหละ]
"ไม่มีทางอะ พี่เขาจืดชืดเกินไป ไม่ใช่สเปคกู"
[พี่วาวิวมาได้ยินจะเสียใจเอาหน่า]
"ไม่ว่ายังไงกูก็ไม่มีทางชอบแน่นอน"
[จะรอดูคนกลืนน้ำลายตัวเอง]
"ไม่มีทา-" สายหมอกยังพูดไม่ทันจบ เพื่อนตัวดีก็ตัดสายหนีไปก่อนซะแล้ว นิสัยเสียจริงๆ
แกร๊ก
วางสายจากกราฟไปได้แปปเดียวเสียงเปิดประตูห้องน้ำก็ดังขึ้นจนต้องหันกลับไปมอง พี่วาวิวอาบน้ำเร็วจังวะ
"หมอก" ตอนแรกก็มีเพียงแค่เสียงเปิดประตูเขาก็สงสัยว่าทำไมพี่วาวิวไม่ออกมาจากห้องน้ำซักทีทั้งๆที่เสียงเปิดประูตูก็ดังไปสักพักแล้ว แต่จู่ๆเสียงของคนที่อยู่ในห้องน้ำก็เรียกชื่อเขาขึ้นมา เจ้าของชื่อเลยต้องขานรับไปแบบงงๆ
"ครับ?"
"พี่วานหยิบแปรงในกระเป๋าให้หน่อย เมื่อกี้ลืมหยิบเข้ามาด้วย"
สายหมอกเดินไปที่กระเป๋าใส่เสื้อผ้าของพี่วาวิวแล้วหาแปรงสีฟันที่อยู่ในกระเป๋าช่องเล็กตามที่เจ้าของกระเป๋าบอก พอเจอแล้วก็เดินเอาไปให้ที่หน้าประตูแล้วยื่นให้พี่วาวิวที่ยื่นแขนออกมาจากการแง้มประตู
แขนเล็กฉิบหายเลย แล้วคนห่าไรขาวอย่างกันนีออน... นี่คือความคิืดของสายหมอกที่เห็นแขนที่มีหยดน้ำเล็กๆเกาะอยู่ของคนในห้องน้ำ คนบ้าไรแค่แขนข้างเดียวก็ทำเอาเขาใจสั่นได้ขนาดนี้
ไม่ๆ เราไม่ได้ชอบผู้ชาย เราชอบผู้หญิง เตือนสติัตัวเองไว้ไอหมอก
พอพี่วาวิวอาบน้ำเสร็จก็ถึงตาเขาที่ต้องเข้าไปอาบบ้าง สายหมอกใช้เวลาอาบน้ำเร็วกว่าพี่วาวิวมาก เพราะไม่รู้ว่าจะอาบนานไปเพื่ออะไร ราดน้ำ ถูสบู่ แปรงฟัน ก็เสร็จแล้ว
และเวลาที่เขาไม่อยากให้มาถึงก็มาถึงจนได้ ไอนี่แหละทำสายหมอกคิดหนัก... เตียงมีเตียงเดียว
"..."
"..."
สายหมอกและวาวิวได้แต่ยืนอยู่ข้างเตียงคนละฝั่งอย่างเงียบๆ อันที่จริงผู้ชายด้วยกันมันไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากหรอก แต่ไม่รู้ทำไมถึงต้องมาคิดหนักกับการนอนเตียงเดียวกันแค่นี้ด้วย
"พี่นอนบนที่นอนก็ได้ เดี๋ยวผมนอนพื้นเอง" ในที่สุดสายหมอกก็ขอเสียสละเองแล้วกัน แค่นอนพื้นไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย
"เห้ย นอนด้วยกันก็ได้ พี่ไม่ได้ซีเรียส" พี่ไม่ซีแ่ต่ผมซี!!
"ไม่เป็นไรพี่"
"นอนด้วยกันนี่แหละ ถ้านอนพื้นแล้วหมอกจะเอาผ้าห่มที่ไหน หมอน ผ้าปูอีก"
"..." เออว่ะ
"ที่นอนก็ตั้งกว้าง พี่ไม่นอนดิ้นหรอก"
คิดไปคิดมา ถ้าเขาบริสุทธิ์ใจไม่ได้ชอบพี่วาวิวจริงแล้วจะคิดมากไปทำไมกับอีแค่นอนด้วยกัน ผู้ชายด้วยกันคิดไรเยอะแยะวะไอหมอก ว่าแล้วสายหมอกก็ตัดสินใจล้มตัวลงนอนบนที่นอนตามด้วยพี่วาวิวที่เพิ่งเดินไปปิดไฟ ตอนนี้เหลือแต่ไฟตรงหัวเตียงที่ส่องแสงสีส้มสลัวๆไม่ให้ภายในห้องมันมืดเกินไป
พอหัวถึงหมอนทั้งคู่ก็เข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด จากตอนแรกที่กังวลเรื่องนอนด้วยกันแต่พอได้เจอที่นอนนุ่มๆ แอร์เย็นๆ ก็หลับไปง่ายดาย ยังดีที่ผ้าปูมันผื่นใหญ่สายหมอกกับวาวิวจึงไม่ต้องนอนใกล้กันมาก ไม่อย่างนั้นป่านนี้คงมีใครสักคนที่ไม่หลับแน่ๆ
.
.
.
วาวิวตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวจึงลุกขึ้นมานั่งบิดไปมาจนได้ยินเสียงกระดูกลั่น แต่พอมองไปรอบๆก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่ตัวเองไม่ได้อยู่บนที่นอนแต่ดันมานั่งแหมะอยู่บนพื้น ก็ได้แต่คิดว่า ลงมาได้ไงวะ
นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเขาลงมานอนอยู่ข้างล่างได้ไง แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้ปวดหลังมาก วาวิิวลุกขึ้นยืนแล้วบิดขี้เกียจอีกรอบ และพอมองไปที่หน้าต่างก็พบว่าตอนนี้หน้าจะเป็นเวลาตีห้ากว่าๆเพราะฟ้าเริ่มสว่างขึ้นมาหน่อยแล้ว ไหนๆก็ตื่นแล้วไปเตรียมตัวอาบน้ำเลยดีกว่า
แต่พอเลื่อนสายตามามองที่เตียงก็พบกับสายหมอกนอนอ้าแข้งอ้าขาเต็มที่นอนจนไม่เหลือที่ให้ใครสามารถนอนได้เลย
คนนี้หรือเปล่าต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องลงมานอนกับพื้น...
[เออหน่า อยู่ใกล้กันบ่อยๆเดี๋ยวก็ชอบเองแหละ]
"ไม่มีทางอะ พี่เขาจืดชืดเกินไป ไม่ใช่สเปคกู"
[พี่วาวิวมาได้ยินจะเสียใจเอาหน่า]
"ไม่ว่ายังไงกูก็ไม่มีทางชอบแน่นอน"
[จะรอดูคนกลืนน้ำลายตัวเอง]
"ไม่มีทา-" สายหมอกยังพูดไม่ทันจบ เพื่อนตัวดีก็ตัดสายหนีไปก่อนซะแล้ว นิสัยเสียจริงๆ
แกร๊ก
วางสายจากกราฟไปได้แปปเดียวเสียงเปิดประตูห้องน้ำก็ดังขึ้นจนต้องหันกลับไปมอง พี่วาวิวอาบน้ำเร็วจังวะ
"หมอก" ตอนแรกก็มีเพียงแค่เสียงเปิดประตูเขาก็สงสัยว่าทำไมพี่วาวิวไม่ออกมาจากห้องน้ำซักทีทั้งๆที่เสียงเปิดประูตูก็ดังไปสักพักแล้ว แต่จู่ๆเสียงของคนที่อยู่ในห้องน้ำก็เรียกชื่อเขาขึ้นมา เจ้าของชื่อเลยต้องขานรับไปแบบงงๆ
"ครับ?"
"พี่วานหยิบแปรงในกระเป๋าให้หน่อย เมื่อกี้ลืมหยิบเข้ามาด้วย"
สายหมอกเดินไปที่กระเป๋าใส่เสื้อผ้าของพี่วาวิวแล้วหาแปรงสีฟันที่อยู่ในกระเป๋าช่องเล็กตามที่เจ้าของกระเป๋าบอก พอเจอแล้วก็เดินเอาไปให้ที่หน้าประตูแล้วยื่นให้พี่วาวิวที่ยื่นแขนออกมาจากการแง้มประตู
แขนเล็กฉิบหายเลย แล้วคนห่าไรขาวอย่างกันนีออน... นี่คือความคิืดของสายหมอกที่เห็นแขนที่มีหยดน้ำเล็กๆเกาะอยู่ของคนในห้องน้ำ คนบ้าไรแค่แขนข้างเดียวก็ทำเอาเขาใจสั่นได้ขนาดนี้
ไม่ๆ เราไม่ได้ชอบผู้ชาย เราชอบผู้หญิง เตือนสติัตัวเองไว้ไอหมอก
พอพี่วาวิวอาบน้ำเสร็จก็ถึงตาเขาที่ต้องเข้าไปอาบบ้าง สายหมอกใช้เวลาอาบน้ำเร็วกว่าพี่วาวิวมาก เพราะไม่รู้ว่าจะอาบนานไปเพื่ออะไร ราดน้ำ ถูสบู่ แปรงฟัน ก็เสร็จแล้ว
และเวลาที่เขาไม่อยากให้มาถึงก็มาถึงจนได้ ไอนี่แหละทำสายหมอกคิดหนัก... เตียงมีเตียงเดียว
"..."
"..."
สายหมอกและวาวิวได้แต่ยืนอยู่ข้างเตียงคนละฝั่งอย่างเงียบๆ อันที่จริงผู้ชายด้วยกันมันไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากหรอก แต่ไม่รู้ทำไมถึงต้องมาคิดหนักกับการนอนเตียงเดียวกันแค่นี้ด้วย
"พี่นอนบนที่นอนก็ได้ เดี๋ยวผมนอนพื้นเอง" ในที่สุดสายหมอกก็ขอเสียสละเองแล้วกัน แค่นอนพื้นไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย
"เห้ย นอนด้วยกันก็ได้ พี่ไม่ได้ซีเรียส" พี่ไม่ซีแ่ต่ผมซี!!
"ไม่เป็นไรพี่"
"นอนด้วยกันนี่แหละ ถ้านอนพื้นแล้วหมอกจะเอาผ้าห่มที่ไหน หมอน ผ้าปูอีก"
"..." เออว่ะ
"ที่นอนก็ตั้งกว้าง พี่ไม่นอนดิ้นหรอก"
คิดไปคิดมา ถ้าเขาบริสุทธิ์ใจไม่ได้ชอบพี่วาวิวจริงแล้วจะคิดมากไปทำไมกับอีแค่นอนด้วยกัน ผู้ชายด้วยกันคิดไรเยอะแยะวะไอหมอก ว่าแล้วสายหมอกก็ตัดสินใจล้มตัวลงนอนบนที่นอนตามด้วยพี่วาวิวที่เพิ่งเดินไปปิดไฟ ตอนนี้เหลือแต่ไฟตรงหัวเตียงที่ส่องแสงสีส้มสลัวๆไม่ให้ภายในห้องมันมืดเกินไป
พอหัวถึงหมอนทั้งคู่ก็เข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด จากตอนแรกที่กังวลเรื่องนอนด้วยกันแต่พอได้เจอที่นอนนุ่มๆ แอร์เย็นๆ ก็หลับไปง่ายดาย ยังดีที่ผ้าปูมันผื่นใหญ่สายหมอกกับวาวิวจึงไม่ต้องนอนใกล้กันมาก ไม่อย่างนั้นป่านนี้คงมีใครสักคนที่ไม่หลับแน่ๆ
.
.
.
วาวิวตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวจึงลุกขึ้นมานั่งบิดไปมาจนได้ยินเสียงกระดูกลั่น แต่พอมองไปรอบๆก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่ตัวเองไม่ได้อยู่บนที่นอนแต่ดันมานั่งแหมะอยู่บนพื้น ก็ได้แต่คิดว่า ลงมาได้ไงวะ
นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเขาลงมานอนอยู่ข้างล่างได้ไง แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้ปวดหลังมาก วาวิิวลุกขึ้นยืนแล้วบิดขี้เกียจอีกรอบ และพอมองไปที่หน้าต่างก็พบว่าตอนนี้หน้าจะเป็นเวลาตีห้ากว่าๆเพราะฟ้าเริ่มสว่างขึ้นมาหน่อยแล้ว ไหนๆก็ตื่นแล้วไปเตรียมตัวอาบน้ำเลยดีกว่า
แต่พอเลื่อนสายตามามองที่เตียงก็พบกับสายหมอกนอนอ้าแข้งอ้าขาเต็มที่นอนจนไม่เหลือที่ให้ใครสามารถนอนได้เลย
คนนี้หรือเปล่าต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องลงมานอนกับพื้น...