3/11/60

i'm seol ♢ 8 [2/2]

3/11/60
         (บรรยายเพิ่มเติมจากจอยลดาจ้า)




         พอเข้ามาในบ้านก็เจอพ่อกับแม่และคินนั่งหน้าเครียดกันอยู่หน้าทีวี แต่พอได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาในบ้านทั้งสามคนก็หันมามอง และเป็นแม่ที่วิ่งพุ่งเข้ามากอดฉันแน่น

         "ซอล... แม่เป็นห่วงหนูจะตายอยู่แล้ว ไปไหนมาน่ะเรา บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าไปนั่งแท็กซี่ให้กลับรถเมล์ พ่อกับแม่เป็นห่วงมากนะรู้มั้ย" พอกอดฉันได้แม่ก็บ่นออกมาชุดใหญ่ ส่วนฉันก็น้ำตาแตกจนพูดอะไรไม่รู้เรื่องได้แต่พยักหน้าตอบๆแม่ไป

         ส่วนพ่อเมื่อเห็นว่าแม่ผละออกไปแล้วก็เดินเข้ามากอดฉันแน่น ไม่ได้บ่นหรือพูดอะไรเหมือนแม่ แต่พ่อทำเพียงแค่กอดปลอบแล้วลูบหัวฉัน ตอนเด็กๆเวลาฉันเจอเรื่องร้ายๆพอก็จะทำแบบนี้ เขาบอกว่ามันเป็นการเรียกขวัญที่หนีกระเจิงไปตอนตกใจ

         เมื่อฉันเริ่มหยุดร้องไห้พี่มินก็ขอตัวออกไปคุยกับพ่อแม่ข้างนอก บอกว่าตอนนี้ฉันคงเล่าอะไรไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวพี่เขาเล่าให้พ่อกับแม่ฟังเอง ส่วนเรื่องแจ้งความก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของเขาและพ่อแม่

         "มึงไม่ได้เป็นอะไรแน่นะ" ฉันหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆแล้วพยักหน้าตอบมันไป

         "รู้สึกผิดว่ะ ถ้ากูไปกับมึงด้วยก็คงไม่เป็นแบบนี้"

         "..."

         "ถ้าตอนนั้นกูตอบไลน์มึงเร็วกว่-"

         "มันไม่ใช่ความผิดมึง ไม่ต้องรู้สึกผิด ไม่ต้องโทษตัวเอง ไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นหรอก แค่ตอนนี้กูปลอดภัยไม่ได้เป็นอะไรก็ดีแล้ว ถือซะว่ามันเป็นประสบการณ์การนั่งแท็กซี่ที่ต่อไปนี้กูจะไม่นั่งอีกแล้ว"

         "แต่กูก็รู้สึกผิดอยู่ดี"

         "อันที่จริงคนที่ควรจะนั่งหน้าเป็นหมาหงอยควรเป็นกูมากกว่ามึงมั้ย ใช่เรื่องที่กูจะต้องมานั่งปลอบมึงว่ามึงไม่ผิดปะ" ปัญญาอ่อนจริงๆเพื่อนกู มานั่งหน้าสลดอมทุขอยู่ได้ คนที่ควรจะเป็นแบบนั้นหน้าจะเป็นคนที่เพิ่งเจอเรื่องร้ายๆมาแบบกูมากกว่าปะวะ

         "เห้ย!" จู่ๆคนที่นั่งอยู่ข้างๆก็เอื้อมมือมาคว้าแขนฉันให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอด จนตอนนี้หน้าฉันจมอยู่ในอกมันแล้วเรียบร้อย

         "ขอบคุณนะ... ขอบคุณที่ปลอดภัยกลับมาหากู" มึงอย่าทำซึ้งดิคิน กูอุตส่าหยุดร้องไปแล้วนะ ไม่อยากร้องแล้วเว้ย เดี๋ยวตาบวมแล้วกูไม่สวย

         "ฮึก... ฮืออ.." นั่นไง เชี้ยเอ้ย สุดท้ายกูก็ร้อง

         ฉันกดหน้าลงไปที่หน้าอกของอีกคนเพราะไม่อยากให้มันเห็นหน้าตอนร้อง แค่เมื่อกี้ก็ตลกจะแย่อยู่แล้ว มาเห็นรอบสองอีกนี่ไม่ไหวอะ เสียภาพลักษณ์คนสวยหมด

         เรากอดกันฉันเลิกร้องไห้ คินก็ผละออกแล้วเอามือมายีหัวฉันจนผมที่ยุ่งอยู่แล้วยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่

         "ไอขี้แย เคยเปลี่ยนไปบ้างมั้ยมึงอะ"

         "ใครขี้แยมึงพูดดีๆ แล้วเอามือออกไปจากหัวกูได้แล้ว ยุ่งหมดแล้วเนี้ย"

         ไอขี้แยเป็นฉายาที่คินชอบเรียกฉัน เพราะตอนเด็กๆฉันมักจะโดนเพื่อนแกล้งแล้วไม่สู้ได้แต่กลับมาร้องไห้กับคินที่บ้าน เวลาฉันร้องไห้คินจะเข้ามากอดจนกว่าฉันจะหยุดร้อง แล้วฉันเป็นพวกที่ถ้าได้ร้องจะร้องนานมาก จนเป็นที่มาของฉายาขี้แย ถึงจะไม่ค่อยชอบแต่ก็ต้องยอมว่าตัวเองขี้แยจริงๆล่ะนะ

         "คินลูก หนูกลับบ้านไปเถอะเดี๋ยวซอลพ่อกับแม่จะดูแลเองนะ" เมื่อพ่อกับแม่เข้ามาในบ้าน แม่ก็เดินมาบอกให้คินกลับบ้านเพราะพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแถมตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วย

         "ครับ" พูดจบคินก็หันมามองฉันแล้วโบกมือไปมา ฉันจึงบอกมือกลับ แล้วมันก็เดินออกจากบ้านไป

         "พี่มินกลับไปแล้วหรอแม่"

         "กลับไปแล้ว เห็นพี่เขาว่ามีเพื่อนเป็นตำรวจอยู่ เดี๋ยวให้เพื่อนจัดการให้ ส่วนซอลก็ไปอาบน้ำนอนได้แล้ว พรุ่งนี้แม่ให้หยุดได้หนึ่งวัน"

         "ไม่เอาอะแม่ หยุดแล้วเดี๋ยวไม่ทันเพื่อน"

         "หืม... ปกติถ้าคนอื่นได้โอกาสแบบนี้จะรีบหยุดแล้วนะ และไปเจอเรื่องแบบนั้นมาจะไปเรียนไหวแน่หรอ"

         "หนูไม่ได้เป็นอะไร มันไม่ได้ทำอะไรหนู พรุ่งนี้ไปเรียนได้สบาย" พอฉันพูดจบแม่ก็พยักหน้าแล้วไล่ให้ฉันไปอาบน้ำอีกรอบ

         พออาบน้ำเสร็จฉันทักไปหาออนตัวต้นเหตุที่ทำให้ฉันต้องนั่งแท็กซี่ ตอนคอลกับมันก็เล่าไปด้วยบ่นมันไปด้วย จนเวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืนออนก็ขอตัวไปนอนเพราะต้องไปเรียนนอนดึกมากไม่ได้ ฉันก็ควรนอนได้แล้วต้องตื่นไปเรียนเหมือนกัน

         แต่พยายามข่มตาหลับเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้ซักที พอหลับตาภาพของผู้ชายสองคนนั้นก็ตามมาหลอกหลอนทุกที ฉันยังจำได้ทุกการกระทำของมันและความรู้สึกเหมือนตกนรกในตอนนั้น เมื่อหลับตาความรู้สึกพวกนั้นก็ชัดเจนจนกลัวและหลับไม่ลง

         ก๊อกๆ

         "ซอล แม่เข้าไปนะ" ในขณะที่ฉันกำลังกระสับกระส่ายนอนไม่หลับจู่ๆก็มีเสียงเคาะดังแทรกขึ้นมาทำเอาตกใจจนสะดุ้งโหยง แต่พอได้ยินเสียงของแม่ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา

         "เข้ามาเลยแม่ หนูไม่ได้ล็อค" เพียงครู่เดียวแม่ก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง เห็นว่าแม่หอบสัมภาระเข้ามาจนเต็มมือ ทั้งหมอน ผ้าห่ม หมอนข้าง สงสัยจะมานอนด้วย

         "นอนไม่หลับหรอ นี่เที่ยงคืนแล้วนะ" แม่ล้มตัวลงนั่งขอบตรงขอบเตียงแล้วยิ่นมือมาลูบผมฉัน

         "อืม... หนูกลัว"

         "ไม่ต้องกลัวแล้วนะ คืนนี้แม่มานอนด้วยแล้ว" แล้วแม่ก็ย้ายมือมาวางบนแก้มของฉันเบาๆแต่ไม่รู้ทำไมพอมือแม่มาแตะที่แก้มเขาก็ทำหน้าตกใจใหญ่เลย "ทำไมตัวร้อนอย่างนี้ล่ะ"

         ห้ะ? ตัวร้อนหรอ? อย่าบอกนะว่าฉันไม่สบาย ก็ว่าทำไมมันหนาวขนาดนี้ หน้าหนาวก็ไม่ใช่ นี่ก็ห่มผ้าตั้งสองผืนแต่ยังไม่หายหนาวเลย

         "เดี๋ยวแม่ไปเอาปรอทวัดไข้ก่อน" พูดจบแม่ก็ลุกจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องไป

         ฉันหลับตาลงเพื่อพักสายตาสักพัก พอไม่สบายแล้วจะแสบตาตลอด แต่คราวนี้แปลกตรงที่พอหลับตาลง ความรู้สึกแย่ๆพวกนั้นก็หายไปแล้ว

         .

         .

         .

         "เดี๋ยวแม่ฝากคินอยู่กับซอลก่อนนะ แม่จะออกไปซื้อยาให้ซอล"

         "ครับ"

         ฉันลืมตาขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงของแม่กับคิน ว่าแต่ เสียงไอคินมาจากไหน?

         พอมองไปรอบๆห้องก็ไปเห็นใครนี่หว่า หรือกูหลอนไปเอง แต่พอมองลงมาที่ข้างเตียงก็เจอเขากับคุณชายภาคินกำลังนั่งอยู่ที่พื้นเอาคางเกยขอบเีตียงไว้ ส่วนมือของคินก็จับอยู่ที่มือฉันไว้แน่น

         "มึงมาได้ไงอะ"

         "ถามแปลกๆ ก็เดินมาดิ" สกิลกวนตีนของมันยังอยู่ครบ

         "แล้วแม่ไปไหน"

         "ไปซื้อยาให้มึงไง ไข้ขึ้นตั้ง 39" โห้.. ทำไมไข้สูงจังวะ

         "แล้วสรุปมึงมาได้ไง ขอแบบไม่กวนตีน"

         "กูขอให้แม่คอยไลน์บอกว่ามึงเป็นไงบ้าง มึงนอนเหอะเดี๋ยวคืนนี้กูเฝ้าเอง"

         "แล้วแม่กูไม่เฝ้าหรอ"

         "ช่วยกันเฝ้านี่แหละ กลัวมึงช็อคเลยต้องคอยดูตลอด"

         "ละมือนี่เมื่อไหร่จะปล่อย" ฉันเหลือบมองมือของคินที่ยังประสานอยู่กับมือฉันแน่น

         "กูกลัวมึงผวา นอนไปเหอะกูอยู่นี่แหละ"

         "อืม" ฉันหยักหน้าเบาๆแล้วหลับตาลง แต่เอาตรงๆคือนอนไม่หลับ ไม่ใช่เพราะผวาหรือกลัวเหมือนตอนแรก แต่แค่รู้สึกรำคาญ... รำคาญเสียงหัวใจตัวเอง ที่มันเ้ต้นแรงจนฉันได้ยินชัดเจน

         ทั้งๆที่ไม่ได้ไปวิ่งหรือออกกำลังกายที่ไหนเลยแต่หัวใจกลับเ้ต้นแรงเหมือนตอนที่โดนทำโทษให้วิ่งรอบสนามสิบรอบ แค่ตอนนี้มันไม่ได้ีู้รู้สึกเหนื่อย มันเป็นความรู้สึกแปลกๆที่อธิบายไม่ถูก จะว่ารู้สึกดีก็ใช่ แต่ทำไมถึงรู้สึกดีล่ะ?

         จริงๆฉันก็ไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันเรียกว่าอะไร ถึงจะไม่เคยมีความรักหรือมีแฟนมาก่อน แต่การชอบใครสักคนฉันก็พอเข้าใจว่ามันเป็นยังไง มันคล้ายๆกับการชอบไอดอลแต่ต่างกันตรงที่ไอดอลนั้นเราชอบเขาแบบศิลปิน แต่สำหรับความรู้สึกตอนนี้อาจจะชอบแบบผู้ชายคนหนึ่ง

         แต่ชอบไอคินเนี่ยนะ... นั่นมันเพื่อนไม่ใช่หรอ....

         แล้วไอหัวใจห่าเหวนี่เมื่อไหร่มึงจะหยุดส่งเสียงดังสักที คนจะหลับจะนอน ไม่มีมารยาทเลยมึงเนี่ย อีฉิบหาย รำคาญโว้ยยยยย!!!!!!
Copyright © HamsterNaphatOne